|
ไวโอลิน (Violin)
เครื่องดนตรีที่กำเนิดเสียงในระดับสูง เครื่องดนตรีในตระกูลไวโอลิน คือ เครื่องดนตรี หลักที่ใช้ในวงออร์เคสตร้า ลำตัวไวโอลินทำด้วยไม้ มี 4 สาย ตั้งเสียง ต่างกันในระดับคู่ 5 (G , D , A และ E) ปกติจะเล่นโดยใช้คันชักสี ที่สาย ให้สั่น สะเทือน แต่บางครั้งก็จะใช้นิ้วดีด เพื่อให้เกิดเสียงสั่น ไวโอลินจะต้องวางบนไหล่ข้างซ้ายของผู้เล่น แล้วใช้ คางหนีบไว้ไม่ให้เคลื่อนที่ มือขวาของผู้เล่นใช้สีสายไวโอลินด้วยคันชัก โดยทั่ว ๆ ไป คันชักจะทำด้วยหางม้า |
|
วิโอลา (Viola)
เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลเครื่องสายที่มีรูปร่างคล้ายไวโอลิน แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่า
นิยมเล่นใน วงออร์เคสตรา และ วงเครื่องสาย ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากโลกตะวันตก โดย วิโอลามีระดับเสียงต่ำกว่า ไวโอลิน แต่สูงว่าเชลโลและดับเบิลเบส ช่วงเสียง ของวิโอลา อยู่ในระดับเสียงอัลโต (Alto) ลำตัวของวิโอลาทำด้วยไม้มี 4 สาย
|
|
เชลโล (Cello)
เป็นเครื่องดนตรีที่อยู่ในตระกูลไวโอลิน แต่มีขนาดยาวและใหญ่กว่าไวโอลินเป็น 2 เท่า โดยประมาณ ลำตัวของเชลโลทำด้วยไม้ มี 4 สาย ตั้งเสียงห่างกันในระยะคู่ 5 โน้ต สำหรับเชลโลบันทึกด้วยกุญแจเสียงเอฟ ระดับเสียงต่ำกว่าไวโอลิน คุณ าพ เสียงทุ้มลึกกว่าไวโอลิน เชลโลสามารถเล่นด้วยวิธีสีและวิธีดีด เช่นเดียวกับ ไวโอลิน ในขณะที่ เล่นต้องนั่งใช้เข่าหนีบให้เชลโลอยู่ระหว่างขาทั้ง 2 ข้าง
|
|
ดับเบิลเบส (Double bass)
ดับเบิลเบส มีความสูงมาตรฐานประมาณ 74 นิ้ว เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลไวโอลิน
ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดมีชื่อเรียกหลายชื่อเช่น สตริงเบส (String bass) คอนทราเบส
(Contra bass) เบสวิโอล (Bass Viol)รูปร่างของดับเบิลเบสจะแตกต่างจากเครื่อง ดนตรีในตระกูลไวโอลินชนิดอื่นๆ ตรงช่วงบ่าของเครื่องจะมีความลาดชัน มากกว่า พื้นแผ่นด้านหลังของลำตัวจะแบนราบมากกว่า การตั้งสายทั้ง 4 ก็จะไล่ระดับต่างกัน ในระยะขั้นคู่ที่ 4 แทนที่จะเป็นคู่ที่ 5 เหมือนกับเครื่องดนตรีชนิดอื่นๆเวลาเล่นต้อง ตรึงเครื่องไว้บนพื้นโดยมีหมุดยึดไว้ เพราะว่าดับเบิลเบสมีขนาดใหญ่มาก คุณ าพ เสียงของดับเบิลเบสจะหนักแน่น และให้ความรู้สึกอุ้ยอ้าย เยิ่นเย้อเหมือนกับการ เคลื่อนที่ของสิ่งของใหญ่โตที่มีน้ำหนักมาก
|
|
ฮาร์พ (Harp)
เครื่องดนตรีประเ ทเครื่องสายแตกต่างจากเครื่องสายชนิดอื่นๆ คือ การขึงสาย มี
จำนวนมาก ประมาณ 46-47 สาย และ จะไม่ผ่านกล่องเสียง (Sounding Board)
โครงสำหรับขึงสายมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม โค้งงอเล็กน้อยเพื่อให้เกิด ความสวยงาม ปกติจะเล่นด้วยการดีดที่สาย คุณ าพเสียงของฮาร์ป มีความแจ่มใส กว่าเสียงของ เปียโน เสียงฮาร์ปสามารถใช้เพื่อแสดงการไหลของสายน้ำ การล่องลอยไปในสายน้ำอย่างรวดเร็วแสดงความสดชื่นแจ่มใส
|
|
ลูท (Lute)
เป็นพิณชนิดหนึ่งที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องสายประเ ทดีด ลูทมีรูปทรงเหมือนผล
ส้มผ่าซีก มีสะพานวางนิ้วที่มีช่องปรากฏอยู่ เช่นเดียวกับกีตาร์ แบนโจ แมนโดลิน
ฯลฯ ชาวอาหรับโบราณนิยมกันมากแต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้รับความนิยม |
|
กีตาร์ (Guitar)
กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่แพร่หลายมากในปัจจุบันมีรูปร่างคล้ายคลึงกับพิณลูทแต่ผิด
กันตรงที่รูปร่างแบนกว่าในปัจจุบันมีความสำคัญทั้งในวงดนตรีประเ ทสตริง แจ๊ส
ร็อค เป็นต้น กีตาร์ประกอบด้วยสาย 6 สาย โดยตั้งระดับเสียงต่ำไปหาสูง ในแต่ละ
สายดังนี้ E,A,D,G,B,E ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์โปร่งธรรมดา หรือกีตาร์ไฟฟ้า นอกจากนี้
เครื่องสายประเ ทดีดยังมี แมนโดลิน แบนโจ เป็นเครื่องสายประเ ทดีดที่มีรูปร่าง
คล้ายกีตาร์ แต่มิได้นำมาใช้ในวงดนตรี ส่วนมากใช้ในดนตรีของ ชาวพื้นเมือง
แถบลาตินอเมริกาอย่างไรก็ตามทั้งแมนโดลิน และแบนโจก็เป็นผลการวิวัฒนาการ
ของลูทนั่นเอง |
|
แมนโดลิน (Mandolin)
เป็นเครื่องดนตรีตระกูลลูท มีสาย 4 คู่ (8สาย) หรือ 6 คู่ (12สาย) ตั้งเสียงเท่ากัน
เป็นคู่ มีลูกบิดคล้ายกีตาร์ใช้ในการตั้งเสียง และมีนม (Feat) รองรับสาย เวลาเล่นจะ
ใช้นิ้วมือซ้ายจับตัวแมนโดลินและใช้มือขวาดีด ลักษณะการดีดคล้ายการดีดกีตาร์ โดยใช้ปิ๊ค (Pick) เสียงที่เกิดจากแมนโดลินมีความไพเราะเป็นเสียงที่มีคุณ าพ เร้าอารมณ์ได้ดีโดยเฉพาะอารมณ์โศกเศร้าเกี่ยวกับความรัก แมนโดลินมีถิ่นกำเนิด ที่ประเทศอิตาลี เป็นเครื่องดนตรีที่ชาวอิตาเลียนนิยมกันแพร่หลาย ในปี ค.ศ. 1713
ได้มีผู้นำเอาแมนโดลินมาเล่นผสมในวงคอนเสิร์ตในประเทศอังกฤษ |
|
แบนโจ (Banjo)
เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลลูท จุดเริ่มต้นที่มีผู้นำมาเล่นอยู่ในแถบ แอฟริกาตะวันตก
(Western Africa) เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของพวกนิโกร ต่อมาจึงเป็นที่แพร่หลาย ในหมู่อเมริกันนิโกร วิธีการเล่นคล้ายกับกีตาร์ |